เดิมพันท็อปโฟร์,อีแลงก้าฟอร์มสด! 5 ข้อน่าสนใจก่อนเกมแมนยูรับมือเวสต์แฮม

ราล์ฟ รังนิก นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีภารกิจสำคัญในการรับมือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 มกราคมนี้ โดย “ผีแดง” ไม่มี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เนื่องจากต้องดูแลครอบครัวจากการโดนโจรปล้นบ้าน ทำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะได้หวนคืนตัวจริงอีกครั้ง ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีปัญหาเจ็บคอ ยังต้องลุ้นเรื่องสภาพความฟิต ขณะที่เจ้าบ้านต้องระวัง จาร์ร็อด โบเว่น ปีกตัวเก่ง “ขุนค้อน” เอาไว้ให้ดีๆ เพราะนักเตะมีสถิติเว็บคาสิโนออนไลน์ถูกกฎหมายแอสซิสต์เป็นรองแค่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฉะนั้นเกมรับของ “เร้ด เดวิลส์” ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ

1. ขาด ลินเดอเลิฟ-ซานโช่, ขุมกำลังมีปัญหา

รังนิก ต้องมีการปรับแนวรับในแมตช์กับ เวสต์แฮม แน่นอน เนื่องจากทีมจะไม่มี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เนื่องจากนักเตะต้องอยู่ปลอบขวัญภรรยาและลูกๆ หลังโดนพวกตีนแมวงัดบ้านในช่วงที่เขาเดินทางไปกับ “ผีแดง” เกมชนะ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อกลางสัปดาห์

ขณะที่ เอริก ไบยี่ ยังติดภารกิจรับใช้ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ นั่นทำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะได้กลับมาลงตัวจริงคู่กับ ราฟาแอล วาราน ในช่วงแบ็กขวา อารอน วาน-บิสซาก้า มีอาการป่วยทำให้ ดีโอโก้ ดาโลต์ ได้ทำหน้าที่ต่อไป ส่วน ลุค ชอว์ ก็ยังบาดเจ็บ ฉะนั้น อเล็กซ์ เตลลิส จะยืนประจำการฝั่งซ้าย

นอกจากนี้ แมนฯ ยูฯ อาจจะไม่มี เจดอน ซานโช่ เพราะเพิ่งจะสูญเสียสมาชิกในครอบครัว และสภาพจิตใจยังหดหู่จนอาจต้องพักเพิ่ม ส่วน เอดินสัน คาวานี่ ยังต้องลุ้นเรื่องสภาพความฟิต แต่หากไม่มีปัญหาอะไรก็น่าจะได้ช่วยทีม

สำหรับตอนนี้ รังนิก จำเป็นต้องบริหารจัดการขุมกำลังที่มีอยู่ให้ดีที่สุด และไม่อยากให้เกิดการบาดเจ็บเด็ดขาด เพราะในช่วงนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมเตะถี่ยิบ ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นมาอีกอาจส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น

 

2. โรนัลโด้ จะได้ลงตัวจริงหรือเปล่า ?

ตอนนี้เกิดคำถามในแค้มป์แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าสถานการณ์ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ รังนิก สามารถเคลียร์กันลงตัวหรือยัง เพราะนักเตะไม่พอใจที่โดนเปลี่ยนตัวในแมตช์ถลุง เบรนท์ฟอร์ด จนทำให้นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช ต้องคุยเปิดอกหลังจบเกมดังกล่าว

สำหรับเรื่องปัญหาคาใจของ “เฮียโด้” กับ รังนิก อาจจะต้องพักเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ “เดอะ โปรเฟสเซอร์” เจอกับความเครียดอีกครั้ง เพราะนักเตะดันมีปัญหาบาดเจ็บที่คอ ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาตัว และต้องลุ้นว่าจะฟิตทันลงเล่นเกมรับมือ เวสต์แฮม ได้หรือไม่

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือหาก โรนัลโด้ ฟิตและได้ลงตัวจริง แต่กลับต้องเจอกับสถานการณ์เดิมนั่นก็คือถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะ รังนิก ต้องการจะปรับแท็กติก งานนี้เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมเหมือนเกมกับ “ผึ้งพิฆาต” อาจเกิดขึ้นอีกครั้งก็ได้

การปรับเปลี่ยนแท็กติกของ รังนิก หากผลออกมาเป็นบวกเหมือนในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด แน่นอนว่าเขาก็ได้เครดิตไปเต็มๆ แต่ถ้าผลลัพธ์ตรงกันข้าม งานนี้ โรนัลโด้ จะกลายเป็นผู้ชอบธรรมไปโดยปริยาย และแพะรับบาปคงรู้ว่าจะเป็นใคร !!

3. อีแลงก้าได้โอกาสเหนือ แรชฟอร์ด

สำหรับแนวรุกทางฝั่งซ้ายคงไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า แอนโธนี่ อีแลงก้า หลังจากที่นักเตะแสดงศักยภาพได้อย่างสุดยอดตอบแทนความไว้วางใจของ รังนิก ที่ให้โอกาสเขาลงสนามเป็นตัวจริงสองแมตช์ติดต่อกัน

รังนิก ค่อนข้างไว้วางใจ อีแลงก้า ลงเล่นร่วมกับ เมสัน กรีนวู้ด มากกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด และนักเตะก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะใน 2 เกมล่าสุดที่เขาปั่นป่วนเกมรับของ แอสตัน วิลล่า และ เบรนท์ฟอร์ด ได้สุดยอด

งานนี้ แรชฟอร์ด คงจะต้องนั่งตบยุงในซุ้มม้านั่งสำรองเพื่อรอโอกาสของเขา เพราะช่วงที่ผ่านมา “ดร.แรชชี่” ทำผลงานไม่ค่อยดีนัก และดูเหมือนสภาพร่างกายของเขายังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

จุดเด่นของ อีแลงก้า ที่ทำให้ รังนิก ประทับใจก็คือเขาเป็นนักเตะกล้าเล่น กล้าลุย เล่นบอลง่าย และประสานงานร่วมกับ โรนัลโด้ และ กรีนวู้ด ได้ดี สวนทางกับ แรชฟอร์ด ที่มีปัญหาเรื่องการตัดสินใจ และมักจะเล่นไม่ค่อยเข้าขากับเพื่อนร่วมทีม

 

4. มอยส์มุ่งมั่นทำลายสถิติ, ระวัง โบเว่น ให้ดี

สิ่งหนึ่งที่ เดวิด มอยส์ อยากที่จะทำมากๆ ในการมาเยือนถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็คือ “ชัยชนะ” เพราะเขามีสถิติที่ย่ำแย่มากๆ ในการสู้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สนามแห่งนี้ โดยไม่เคยสะกดคำว่าชนะได้เลย (เสมอ 4 แพ้ 10 เกม)

แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในแรงกระตุ้นสำคัญที่ กุนซือชาวสกอตแลนด์ อยากที่จะทำให้สำเร็จ เพราะการเก็บชัยชนะใน “โรงละครแห่งความฝัน” นอกจากจะได้สามแต้มสำคัญแล้ว ยังได้ความสะใจด้วย เพราะเขากับ “ผีแดง” จบไม่ค่อยสวย

ขณะเดียวกันอีกเรื่องที่ แมนฯ ยูฯ ต้องระวังให้ดีนั่นก็คือฟอร์มของ จาร์ร็อด โบเว่น เพราะนักเตะมีสถิติในการแอสซิสต์ 7 ครั้งในฤดูกาลนี้ โดยมีแค่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สองสตาร์ ลิเวอร์พูล ที่ทำแอสซิสต์เหนือกว่าเขา

อย่างไรก็ตาม โบเว่น มีปัญหาเรื่องการยิงประตูโดยเขาซัดไปแค่ 3 ลูกจากการเล่นเกมเยือน 43 แมตช์ แต่กระนั้นด้วยพรสวรรค์ในการแอสซิสต์ของเขาจะเป็นประโยชน์กับ มิคาอิล อันโตนิโอ ที่จะใช้ความแข็งแกร่งและความเร็วในการจัดการกับแนวรับเจ้าบ้าน

5. จุดเปลี่ยนทีมท็อปโฟร์

ก่อนเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 7 มี 35 คะแนน ส่วน เวสต์แฮม รั้งอันดับ 4 มี 37 แต้ม แต่ “ผีแดง” แข่งกว่า 1 แมตช์ ฉะนั้นในการพบกันเองมันมีความหมายมากๆ เพราะ 3 คะแนนจะทำให้สถานการณ์ในการลุ้นท็อปโฟร์เปลี่ยนไปทันที

สำหรับในฤดูกาลนี้ “ปีศาจแดง” จำเป็นต้องเดิมพันโอกาสในการคว้าโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ เพราะหากพวกเขาไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย นั่นหมายความว่าทีมจะมีปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะนักเตะระดับสตาร์คงเตรียมเก็บเสื้อผ้าออกจากสโมสร

ที่สำคัญ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกหนึ่งทีมคู่แข่งแย่งโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก มีคิวทำศึกลอนดอน ดาร์ดี้แมตช์ เยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี หาก “ไก่เดือยทอง” กลับบ้านมือเปล่า ยิ่งทำให้โอกาสของ แมนฯ ยูฯ เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ได้ก็คือปราบ เวสต์แฮม เพื่อขึ้นไปอยู่ในอันดับ 4 แต่หากพลาดมีหวังความตึงเครียดเข้าปกคลุม “โรงละครแห่งความฝัน” แน่นอน